ข่าววงการมวยสากล มวยโลก โปรแกรมมวย ผลมวย แชมป์โลก wbc wba ibf wbo

แอนโธนี โจชัว จะไม่ออมมือให้ เจค พอล

 

แอนโธนี โจชัว แสดงท่าทีไม่พอใจอย่างชัดเจนต่อกระแสที่อ้างว่าเขาจะชกแบบถนอมน้ำใจ เจค พอล ในไฟต์ที่กำลังจะเกิดขึ้น

เช่นเดียวกับหลายไฟต์ก่อนหน้านี้ของ พอล ศึกที่จะจัดขึ้นในเช้าวันเสาร์นี้ที่คาเซยา เซ็นเตอร์ เมืองไมอามี สหรัฐอเมริกา ยังคงถูกตั้งคำถามถึงความจริงจังและความชอบธรรม เพราะเป็นการเจอกันระหว่างอดีตแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวต 2 สมัย และเจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก กับนักชกที่สร้างชื่อจากยูทูบ

อย่างไรก็ตาม โจชัว ไม่ใช่นักมวยประเภท “ยอมใครง่ายๆ” และคำตอบของเขาเมื่อถูกถามว่าจะชกแบบประคองพอลหรือไม่ ก็สะท้อนชัดเจนถึงทัศนคติของเขา

“ไม่มีสักเสี้ยวเดียวในตัวผมที่จะออมมือให้เขา และมันก็ไม่ใช่แค่เพราะเป็นเจค พอล” โจชัว กล่าวด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว
“ผมมองตัวเองแล้ว ผมเป็นคนให้เกียรติ ถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีจากครอบครัวที่ดี แต่ถ้าผมฆ่าคุณได้ ผมก็จะฆ่าคุณ นั่นแหละคือตัวผม และนี่คืองานของผม งั้นก็ลุยกันเลย”

คำพูดของยอดมวยรุ่นเฮฟวี่เวตผู้ขึ้นชื่อเรื่องพลังหมัด ทำให้หลายคนเชื่อว่าไฟต์นี้ไม่ใช่เรื่องตลกหรือการจัดฉากแน่นอน แม้ยังคงมีผู้ตั้งข้อสงสัยอยู่ก็ตาม

“นั่นแหละคือจุดประสงค์ของไฟต์นี้” โจชัว กล่าว
“มันสร้างบทสนทนา คุยกันในร้านตัดผม ในแท็กซี่ บนเครื่องบิน และนั่นคือสิ่งที่เราต้องการ ยิ่งคนพูดถึงไฟต์นี้มากเท่าไร ไม่ว่าจะพูดในแง่ไหน มันยิ่งเป็นผลดีมหาศาล สำหรับผม ผมไม่ได้กังวลเรื่องภาพลักษณ์หรือความบริสุทธิ์ของการแข่งขัน ผมสนใจแค่ว่าคนพูดถึงมันหรือเปล่า และตอนนี้ทุกคนกำลังพูดถึงมันจริงๆ”

หาก พอล สามารถเอาชนะ โจชัว ได้ มันจะเป็นวันที่น่าเศร้าสำหรับวงการมวยในสายตานักวิจารณ์จำนวนมาก นักชกที่สร้างชื่อจากการชนะอดีตนักสู้ MMA ที่โรยรา และการเผชิญหน้ากับ ไมค์ ไทสัน ที่อายุมากและร่างกายไม่สมบูรณ์ จะสามารถมีชัยเหนือ แอนโธนี โจชัว ได้จริงหรือ?

อย่างไรก็ตาม นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ โจชัว ต้องแบกรับศักดิ์ศรีของกีฬามวยไว้บนบ่าของตัวเอง

“ผมแบกมวยไว้บนหลังผมมาแล้ว ตั้งแต่ไฟต์กับ ฟรานซิส เอ็นกานนู และผมจะทำมันอีกครั้ง” เขากล่าว
“ผมเข้าใจความคาดหวัง ผมไม่ได้แบกมันเพราะแรงกดดันจากคนอื่น แค่ความคาดหวังที่ผมมีต่อตัวเองก็มากพอแล้ว แต่ผมเข้าใจ ยอมรับ และให้เกียรติมัน เท่านั้นเองสำหรับเสียงจากภายนอก”

ท่ามกลางเสียงวิจารณ์จากแฟนๆ และคำเหน็บแนมว่าเขาอาจ “ล้มมวย” คำถามสำคัญคือ เหตุใด โจชัว จึงเลือกเผชิญหน้ากับ พอล เจ้าของสถิติ 12 ชนะ 1 แพ้ ที่ยังไม่เคยเอาชนะนักชกอันดับโลกอย่างแท้จริงได้เลย

“พูดตามตรง มวยไม่ใช่กีฬาที่สนุกนัก” โจชัว ยอมรับ
“แต่มันเป็นโอกาสที่ยอดเยี่ยมในการกลับขึ้นสังเวียน และกลับสู่ธุรกิจระดับใหญ่ คนพูดถึงไฟต์นี้ และนั่นแหละคือหัวใจของมวย ต้องสร้างเสียง ต้องเป็นไฟต์ใหญ่ นี่คือโอกาสที่จะกลับมาอยู่แถวหน้า กลับมาแสดงให้เห็นว่าทำไมเราถึงเป็นนักชกชั้นนำของโลก พร้อมทีมโปรโมตที่ดีที่สุด และทีมฝึกซ้อมที่ดีที่สุด เรากลับมาอยู่จุดสูงสุดอีกครั้ง และวันที่ 19 ธันวาคม(เช้าวันที่ 20 ธันวาคมตามเวลาไทย) เราจะพิสูจน์ให้เห็นว่าทำไม”

ทีมฝึกซ้อมที่ โจชัว กล่าวถึง นำโดย อีโกร์ โฮลุบ โค้ชของ โอเล็กซานเดอร์ อูซีก อดีตคู่ปรับของ โจชัว แล้วทีมอูซีกเปลี่ยนแปลงอะไรในตัวโจชัวบ้าง?

“บางทีผมอาจสวดมนต์มากขึ้น นั่นสำคัญ และผมได้เรียนรู้จากทีมนี้ ถึงความสำคัญของการอธิษฐาน” โจชัว เปิดเผย
“ดังนั้นตอนนี้ผมสวดมนต์มากขึ้น”

อนาคตของ โจชัว ก็เริ่มถูกพูดถึงแล้ว โดยสัปดาห์ที่ผ่านมา The Ring รายงานว่า เขาอาจกลับมาชกอีกครั้งในเดือนกุมภาพันธ์ ก่อนจะเผชิญหน้ากับเพื่อนร่วมชาติอย่าง ไทสัน ฟิวรี ในช่วงปลายปี 2026

“แน่นอนว่ามันมีความหวัง โดยเฉพาะเมื่อพูดถึงมวยระดับบิ๊กไทม์” โจชัว กล่าวถึงไฟต์กับ ฟิวรี
“เจค แสดงให้เห็นว่ามันทำได้ และผมก็แสดงให้เห็นว่ามันทำได้ ผมอยู่ในไฟต์ยักษ์มานับครั้งไม่ถ้วน นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเรา เรากลับมาอีกครั้ง มวยระดับใหญ่ ผมรู้สึกว่ามันต้องมีสองคนถึงจะเต้นรำได้ และผมก็ยืนอยู่บนฟลอร์แล้ว ผมแค่กำลังมองหาคู่เต้น”