โจเซฟ ปาร์กเกอร์ อดีตแชมป์โลกรุ่นเฮฟวี่เวตของ WBO เตรียมหวนคืนสังเวียนที่ O2 Arena กรุงลอนดอน อังกฤษ เป็นครั้งแรกในรอบ 7 ปี พร้อมประกาศว่าเขาได้ “เปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างสิ้นเชิง” ทั้งในเรื่องร่างกาย จิตใจ และแนวทางการชก
ย้อนกลับไปในปี 2017 ปาร์กเกอร์ ซึ่งขณะนั้นมีสถิติชนะ 23 ไฟต์รวด กำลังครองแชมป์โลก WBO และต้องการสร้างชื่อในตลาดมวยอังกฤษ เขาเริ่มต้นด้วยการป้องกันแชมป์กับ ฮิวจ์ ฟิวรี ที่แมนเชสเตอร์ และเอาชนะคะแนนไปได้ ก่อนจะได้ชกไฟต์รวมเข็มขัดกับ แอนโธนี โจชัว ที่สนาม Principality Stadium ในเดือนมีนาคม 2018
แม้ ปาร์กเกอร์ จะเป็นนักชกคนแรกที่สามารถยืนครบยกกับโจชัวได้ แต่สุดท้ายก็แพ้คะแนน สูญเสียเข็มขัด WBO หลังครองแชมป์ได้ 14 เดือน ทว่าการเดินทางสู่สหราชอาณาจักรถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะทำให้เขากลายเป็นที่รู้จักในวงกว้าง
เพียงสี่เดือนหลังจากแพ้ โจชัว ทาง ปาร์กเกอร์ กลับมาขึ้นชกอีกครั้งที่ O2 Arena พบกับ ดิลเลียน ไวต์ แต่ต้องพ่ายคะแนนอีกครั้ง หลังถูกนับถึงสองครั้งในยกที่ 2 และ 8
จากวันนั้นถึงวันนี้ ปาร์กเกอร์ กลับมาในฐานะหนึ่งในนักชกรุ่นเฮฟวี่เวตที่มั่นคงที่สุดของยุค และเตรียมขึ้นชกกับ ฟาบิโอ วอร์ดลีย์ เช้ามืดของวันอาทิตย์นี้ โดยมีโอกาสสูงที่ผู้ชนะจะได้สิทธิ์ชิงแชมป์โลกกับ โอเล็กซานเดอร์ อูซิก แชมป์โลก 4 สถาบันหลักเป็นรายต่อไป
“ผมแทบไม่เชื่อเลยว่าผ่านมา 7 ปีแล้วตั้งแต่ครั้งสุดท้ายที่ผมขึ้นชกที่ O2 ตอนนั้นผมชกกับ ไวต์ แค่ไฟต์เดียวที่นี่ ผมตั้งตารอกลับมามาก และแม้เสียงเชียร์อาจไปทางเขามากกว่า แต่ผมก็มั่นใจว่าจะมีแฟนๆ ที่เชียร์ผมไม่น้อยเช่นกัน” ปาร์กเกอร์ กล่าว
“ตอนนี้ผมสนุกกับการชกมวยจริงๆ เมื่อก่อนผมซ้อมเพราะรู้สึกว่าต้องทำ แต่ตอนนี้ผมทำเพราะรักมันจริงๆ ความหลงใหลทำให้ผมมุ่งมั่นและมีวินัยมากขึ้นกว่าเดิม” ปาร์กเกอร์ เผย
ผลจากการเปลี่ยนแนวทางชีวิตทำให้ ปาร์กเกอร์ เก็บชัยชนะมาแล้ว 6 ไฟต์ติดต่อกัน รวมถึงการคว่ำยอดมวยจอมหมัดหนักอย่าง ดีออนเทย์ ไวล์เดอร์, จางจื่อเล่ย์ และ มาร์ติน บาคอเล
อย่างไรก็ตาม คู่ชกคนล่าสุดอย่าง วอร์ดลีย์ ถือเป็นนักชกพลังหมัดสูงไม่แพ้ใคร โดยน็อกคู่ต่อสู้ถึง 94% ของชัยชนะทั้งหมด ซึ่ง ปาร์กเกอร์ ยอมรับว่าต้องเตรียมตัวให้หนักกว่าเดิม
“วอร์ดลีย์ เป็นนักชกที่สดและฟิต เขายังอายุน้อยและอันตรายตลอดทั้งไฟต์ ผมจึงต้องพร้อมยิ่งกว่าเดิม ผมจะเบากว่าเดิม เคลื่อนไหวได้เร็วขึ้น และฟิตกว่าทุกไฟต์ที่ผ่านมา”
แม้จะเคยเจ็บช้ำที่ลอนดอนเมื่อ 7 ปีก่อน แต่ ปาร์กเกอร์ มองว่านั่นคือจุดเริ่มต้นของเส้นทางที่ทำให้เขากลายเป็นนักชกระดับโลกในวันนี้
“ผมรู้สึกว่าเราได้บรรลุสิ่งที่ตั้งใจไว้ตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ตอนนี้ผมมีฐานแฟนในอังกฤษ อเมริกา และซาอุดีอาระเบีย ทุกครั้งที่กลับมาที่นี่ ผมได้รับการต้อนรับอย่างดี มันน่าทึ่งมากที่นักมวยจากนิวซีแลนด์และซามัวอย่างผมได้รับการยอมรับในอีกฟากโลก — และผมภูมิใจที่เราทำให้มันเกิดขึ้นจริง” เขากล่าวปิดท้าย