“ผมตื่นเต้นกับไฟต์นี้ ผมชอบไฟต์นี้จริง ๆ” แฟรงค์ วอร์เรน โปรโมเตอร์ของ Queensberry Promotions กล่าวถึงศึกมวยเฮฟวี่เวตที่จะมีขึ้นในเช้ามืดวันที่ 26 ตุลาคม ที่ O2 อารีนา กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ ซึ่ง โจเซฟ ปาร์กเกอร์ เจ้าของแชมป์เฉพาะกาลแชมป์โลก WBO รุ่นเฮฟวี่เวต จะพบกับ ฟาบิโอ วอร์ดลีย์ เจ้าของแชมป์เฉพาะกาลแชมป์โลก WBA รุ่นเฮฟวี่เวต
ทั้งคู่ตัดสินใจขึ้นชกเพื่อบีบให้ โอเล็กซานเดอร์ อูซิก แชมป์เฮฟวี่เวต 4 สถาบันหลัก ชาวยูเครน ต้องตัดสินใจ หลังจาก อูซิก เลื่อนการป้องกันตำแหน่งเพราะอ้างอาการบาดเจ็บที่หลัง
“สิ่งที่เกิดขึ้นก็คือ คุณดูได้เลยว่าเขา(อูซิก)ชกปีละสองครั้ง ถ้าคุณอยู่อันดับสี่ในลำดับการป้องกัน คุณอาจต้องรอถึงสองปีกว่าจะได้โอกาสชิงแชมป์” วอร์เรน อธิบาย “ดังนั้น วอร์ดลีย์ จึงอยากลัดคิว เขามองว่านี่คือโอกาสเดิมพันทั้งหมดหรือไม่ก็ศูนย์ ใครชนะไฟต์นี้จะได้เจอ อูซิก หรือถ้า อูซิก สละตำแหน่ง ผู้ชนะก็จะถูกประกาศเป็นแชมป์ทันที … และพวกเขายืนยันว่าต้องการชก ดังนั้นผมก็บอกว่า ‘ตกลง แต่ถ้าอยากได้เงินตามที่เรียกร้อง คุณต้องชกกับคนที่อยู่ท็อป 10’”
วอร์เรน ชื่นชมทั้ง ปาร์กเกอร์ และ วอร์ดลีย์ ที่กล้าเสี่ยงขึ้นชกแทนที่จะนั่งรอเฉย ๆ พร้อมย้ำว่าเขาเองไม่คาดหวังให้ อูซิก กลับมาชกอีกครั้งภายในปี 2025
สำหรับอาการบาดเจ็บของ อูซิก วอร์เรนกล่าวว่า “เขาไม่มีทางได้ชกในปีนี้หรอก และผมก็ไม่อยากประกาศไฟต์แล้วเสี่ยงให้เขามาเจ็บอีก แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร?”
“คุณต้องยกหมวกให้ทั้ง ปาร์กเกอร์ และ ฟาบิโอ พวกเขาเป็นนักสู้ที่แท้จริง และผมชอบสิ่งที่ทั้งคู่พูดไว้ว่า ‘เมื่อระฆังดังยกแรก พวกเขาจะเดินเข้าหากันตรงกลางเวทีแล้วสู้กันทันที’ ไฟต์นี้ไม่มีทางจบครบยกแน่นอน มันจะเป็นสงครามบนเวที”
วงการมวยรุ่นเฮฟวี่เวตกลับมาคึกคักอีกครั้งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา และนักชั้นนำหลายคนอยู่ภายใต้การดูแลของ Queensberry Promotions ไม่ว่าจะเป็น แดเนียล ดูบัวส์, ดีเร็ก ชิโซรา, ลอว์เรนซ์ โอโคลี, อากิต คาบาเยล และ โจ จอยซ์
“พวกเรากำลังทำให้สิ่งเหล่านี้เกิดขึ้น นักชกเฮฟวี่เวตทุกคนได้ขึ้นชกเป็นประจำ ได้ค่าตัวที่ดี และนั่นคือสิ่งสำคัญที่สุด” วอร์เรน กล่าวเสริม
“เราพานักชกของเราถึง 4 คนขึ้นไปอยู่ในตำแหน่งผู้ท้าชิงบังคับ (ชิโซรา, วอร์ดลีย์, ปาร์กเกอร์ และ โอโคลี) พวกเขากำลังทำให้ไฟต์เหล่านี้เกิดขึ้นจริง”
เมื่อถูกถามว่าเขาสนุกกับความดุเดือดในรุ่นเฮฟวี่เวตหรือไม่ วอร์เรนตอบสั้น ๆ ว่า
“แน่นอน ผมสนุกอยู่แล้ว ไม่งั้นผมคงไม่ทำหรอก”