ฮูลิโอ เซซาร์ ชาเวซ จูเนียร์ อดีตแชมป์โลกรุ่นมิดเดิลเวต ลูกชายตำนานกำปั้น ฮูลิโอ เซซาร์ ชาเวซ ซีเนียร์ ถูกส่งตัวกลับประเทศและถูกคุมขังในเรือนจำเฮอร์โมซิโย รัฐโซโนรา ประเทศเม็กซิโก เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา หลังถูกเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองและศุลกากรสหรัฐฯ(ICE) จับกุมเมื่อเกือบ 7 สัปดาห์ก่อน
ตามข้อมูลจากทะเบียนการคุมขังแห่งชาติของเม็กซิโก ยืนยันว่า ชาเวซ ถูกนำตัวเข้าสู่เรือนจำในโซโนรา หลังถูกส่งตัวผ่านด่านชายแดนสหรัฐฯ–เม็กซิโก ประธานาธิบดี คลอเดีย เชนบาวม์ ผู้นำหญิงคนแรกของเม็กซิโก แถลงเมื่อวันอังคารว่า
“เท่าที่ทราบ ชาเวซ ถูกส่งตัวกลับมาเม็กซิโก ซึ่งมีการออกหมายจับไว้ล่วงหน้าแล้วตั้งแต่หลายสัปดาห์ก่อน ตอนเขาถูกจับในสหรัฐฯ ก็มีการยืนยันว่ามีหมายจับในประเทศเราเช่นกัน”
ชาเวซ จูเนียร์ วัย 39 ปี เจ้าของสถิติ 54-7-1(34 KO) ถูกจับเมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม หลังจากกระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ(DHS) ประกาศเมื่อ 27 มิถุนายนว่าเขาอยู่ในสหรัฐฯ โดยผิดกฎหมายและต้องถูกส่งตัวกลับ สถานการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงหนึ่งวันก่อนการชั่งน้ำหนักศึกพบกับ เจค พอล อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดังที่ผันตัวเป็นนักชกอาชีพ เมื่อ 28 มิถุนายน ที่อนาไฮม์ แคลิฟอร์เนีย ซึ่งสุดท้าย ชาเวซ แพ้คะแนนไป
อย่างไรก็ตาม ปัญหาบนเวทีไม่สำคัญเท่ากับคดีความที่เขากำลังเผชิญ มีการกล่าวหาว่า ชาเวซ มีความเชื่อมโยงกับ แก๊งซินาโลอา เครือข่ายค้ายารายใหญ่ที่รัฐบาลสหรัฐฯ จัดเป็นองค์กรก่อการร้ายข้ามชาติ ฝ่ายกฎหมายของ ชาเวซ ออกแถลงการณ์ปฏิเสธว่า “เป็นข้อกล่าวหาที่เกินจริงและสร้างขึ้นเพื่อหวังผลทางสังคมเท่านั้น”
ขณะเดียวกัน ทางการเม็กซิโกยืนยันว่ามีหมายจับ ชาเวซ ตั้งแต่ปี 2023 ในข้อหาพัวพันกับอาชญากรรมข้ามชาติ รวมถึงการลักลอบค้าอาวุธ กระสุน และวัตถุระเบิด อีกทั้งยังต้องขึ้นศาลจากคดีครอบครองอาวุธปืนในปี 2024 แต่คดีถูกเลื่อนเพราะเจ้าตัวอาศัยอยู่ในสหรัฐฯ เป็นหลัก
ครอบครัวชาเวซ ออกแถลงการณ์ร่วมกันว่า
“ครอบครัวเรารู้สึกเสียใจอย่างมากต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น เราขอยืนยันการสนับสนุน ฮูลิโอ อย่างเต็มที่และเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์ของเขา รวมถึงขอให้กระบวนการยุติธรรมทั้งในเม็กซิโกและสหรัฐฯ ดำเนินไปอย่างโปร่งใสและเป็นธรรม”
การจับกุม ชาเวซ เกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศเข้มงวดด้านนโยบายตรวจคนเข้าเมืองของรัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ สมัยที่สอง โดยตั้งแต่ต้นปี 2025 เป็นต้นมา มีผู้ถูกกักตัวโดย ICE มากกว่า 60,000 ราย นำไปสู่การประท้วงและเหตุวุ่นวายหลายครั้งในแคลิฟอร์เนียตอนใต้และพื้นที่อื่นๆ