จอร์จ โรส โปรโมเตอร์ของ ทิม ซูย์ ออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยต่อคำพูดของ ตุรกิ อัล-ชีค ประธานสำนักงานบันเทิงแห่งชาติซาอุดีอาระเบีย หลังเจ้าตัวโพสต์ข้อความเสียดสี ซูย์ ภายหลังการพ่ายแพ้ต่อ เซบาสเตียน ฟุนดอรา ในไฟต์ชิงแชมป์โลก WBC รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวต ที่ MGM แกรนด์ การ์เดน อารีนา ลาสเวกัส เมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
ซูย์ วัย 30 ปี แพ้น็อกในยกที่ 7 ของการรีแมตช์กับ ฟุนดอรา และตกเป็นเป้าโจมตีของ อัล-ชีค ที่โพสต์ภาพ ซูย์ ร่วงลงผืนผ้าใบพร้อมข้อความว่า
“ผมเคยบอกตั้งแต่ต้นแล้วว่า ทิม ซูย์ ไม่สมควรได้ชกบนรายการของ Riyadh Season หรือ Ring Magazine เขาอาจมีประโยชน์แค่เพียงเป็นคู่ซ้อมให้แชมป์โลกที่ริยาด”
แม้โพสต์ดังกล่าวจะถูกลบออกในภายหลัง แต่ก็สร้างเสียงวิจารณ์อย่างกว้างขวาง โดย โรส ยืนยันว่า “ตนและทีมงาน No Limit Promotions ไม่มีความบาดหมางกับใคร” พร้อมตำหนิการกระทำดังกล่าวว่าเป็นการ “ซ้ำเติมคนที่กำลังล้มอยู่แล้ว”
โรส กล่าวว่า
“ผมไม่ชอบการดูถูกนักมวยที่พ่ายแพ้ เพราะนี่คือกีฬาที่โหดหิน ทุกคนที่อยู่ในวงการมวยไม่ว่าจะเป็นนักชก เทรนเนอร์ ผู้จัดการ หรือโปรโมเตอร์ ต่างทุ่มเทแรงกายแรงใจ การที่ ทิม ซูย์ ได้โอกาสขึ้นชิงแชมป์โลกในรายการเดียวกับ แมนนี่ ปาเกียว ก็ถือเป็นความสำเร็จในตัวเองอยู่แล้ว แม้ผลจะไม่เป็นดั่งหวังก็ตาม”
ด้าน ซูย์ เองไม่ได้ตอบโต้ตรง ๆ แต่ได้โพสต์ข้อความเชิงสะท้อนใจว่า
“ผมเห็นชื่อของตัวเองถูกพาดพิงในเชิงลบ ได้ยินเสียงวิจารณ์มากมาย ความจริงคือทุกคนต้องเจอกับความล้มเหลวในชีวิต แต่สำหรับผม ความล้มเหลวนั้นเป็นเรื่องที่คนทั้งโลกมองเห็น มันเป็นราคาที่ต้องจ่ายเพื่อเดินตามเส้นทางชีวิตที่ผมภาคภูมิใจ”
ปัจจุบัน ซูย์ อยู่ในช่วงฟื้นฟูร่างกายและเตรียมเข้าร่วมการแข่งขัน ซิดนีย์ มาราธอน ปลายเดือนสิงหาคม ขณะที่น้องชายของเขา นิกิต้า ซูย์ เพิ่งจะขึ้นชกโชว์ฟอร์มโหดจนคู่ชกขอยอมแพ้หลังจบยกแรก
โรส ยังชี้ให้เห็นว่าที่ผ่านมา การที่ ซูย์ ไม่สามารถขึ้นชกกับ เวอร์จิล ออร์ทิซ จูเนียร์ ได้นั้น มาจากเหตุผลทางการแพทย์หลังบาดแผลแตกในไฟต์แรกกับ ฟุนดอรา ไม่ใช่เพราะการหลีกเลี่ยงใด ๆ พร้อมเสริมว่า การถูกเปรียบเปรยว่าเหมาะสมแค่เป็นคู่ซ้อมก็ไม่ใช่สิ่งที่ควรถูกมองเป็นเรื่องเสียหาย
“นักมวยหลายคนที่เคยเป็นคู่ซ้อม ได้พัฒนาจนกลายเป็นสุดยอดแชมป์โลก การมีคู่ซ้อมคุณภาพคือหัวใจสำคัญในการสร้างยอดนักชก และในออสเตรเลีย สิ่งที่เราขาดแคลนที่สุดก็คือคู่ซ้อมระดับสูง ซึ่งต่างจากสหรัฐฯ หรือยุโรปที่มีตัวเลือกนับร้อย”
การออกมาปกป้องลูกน้องของ โรส ครั้งนี้สะท้อนถึงท่าทีที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงต่อการวิพากษ์วิจารณ์ของ ตุรกิ อัล-ชีค และยังตอกย้ำว่าแม้ ซูย์ จะพ่ายแพ้ในไฟต์ใหญ่ แต่ก็ยังคงเป็นหนึ่งในนักมวยระดับแนวหน้าที่ได้รับการยอมรับทั้งในและนอกประเทศออสเตรเลีย