WBC ได้มีมติไม่สั่งพักการแข่งขัน ฟรานซิสโก โรดริเกวซ นักชาวเม็กซิกัน แม้จะตรวจพบสารกระตุ้นต้องห้าม "เฮปตามินอล" หลังไฟต์ที่เขาเอาชนะ กาลาล ยาฟาย ไปแบบขาดลอยเมื่อเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา
การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นภายใต้โครงการควบคุมสารต้องห้าม VADA และ WBC Clean Boxing Program โดยผลของไฟต์ถูกเปลี่ยนเป็น ไม่มีผลการแข่งขัน พร้อมกับคืนตำแหน่ง แชมป์เฉพาะกาล WBC รุ่นฟลายเวต ให้กับยาฟาย อดีตเหรียญทองโอลิมปิก ที่พ่ายแพ้เป็นครั้งแรกในอาชีพในการแข่งขันที่เมืองเบอร์มิงแฮม สหราชอาณาจักร
โรดริเกวซ วัย 33 ปี ถูกวางสถานะ “คุมประพฤติ” เป็นเวลา 12 เดือนนับจากวันที่เก็บตัวอย่าง และยังถูกสั่งให้ต้องขึ้นรีแมตช์กับ ยาฟาย ในอนาคต อย่างไรก็ตาม การตัดสินสุดท้ายยังต้องรอคำวินิจฉัยจาก BBBoC ซึ่งเป็นหน่วยงานผู้ควบคุมการแข่งขันในสหราชอาณาจักร
WBC แถลงว่าหลังจากมีการสอบสวนอย่างละเอียดทั้งข้อเท็จจริงและวิทยาศาสตร์ รวมถึงการพิจารณาว่า โรดริเกวซ ได้แจ้งในเอกสารการลงทะเบียนกับ WBC ว่าได้ใช้ผลิตภัณฑ์เสริมพลังงานที่หาซื้อได้ทั่วไป ซึ่งมีสารต้องห้ามอยู่ในฉลากอย่างชัดเจน ทาง WBC จึงเห็นว่าการรับสารนี้เป็น
“การรับเข้าสู่ร่างกายโดยไม่ได้ตั้งใจ, ไม่มีความรู้, ไม่ได้มุ่งหวังเพื่อเพิ่มสมรรถภาพในการชก และไม่เจตนาโกง”
ทั้งสองฝ่ายได้ลงนามใน “ข้อตกลงไกล่เกลี่ย” โดยไม่ต้องถึงขั้นสั่งห้ามแข่งขันหรือยึดสิทธิ์อื่นใดในทันที
ผลการแข่งขันเดิมที่ โรดริเกวซ เอาชนะ ยาฟาย ด้วยสถิติการออกหมัดที่ทำลายสถิติของ CompuBox นั้นจึงถูกลบล้าง และการรีแมตช์จะเป็นไปตามคำสั่งของ WBC
อย่างไรก็ตาม ฝ่าย ทีมยาฟาย แสดงความไม่พอใจอย่างมาก โดยสมาชิกทีมรายหนึ่งระบุว่า “นี่มันไร้สาระสิ้นดี” ขณะที่ กามัล ยาฟาย พี่ชายของ กาลาล และอดีตนักชกอาชีพ ได้โพสต์ผ่านโซเชียลมีเดียว่า
“โดนแบน 12 เดือนแต่ยังได้รีแมตช์... ไม่มีใครเขียนนิยายหลอกลวงแบบนี้ได้หรอก”