เอ็ดดี เรย์โนโซ โค้ชมวยชื่อดังผู้คว้า Trainer of the Year สองสมัย ประกาศจะเปลี่ยนวิธีการทำงานใหม่ โดยจะควบคุมทีมฝึกซ้อมของนักมวยที่เขารับดูแลอย่างเต็มที่ หลังเกิดกรณีอื้อฉาวเรื่องสารกระตุ้นกับนักชกหลายรายที่มีชื่อเขาเกี่ยวข้อง
“จากนี้ไป ผมจะทำงานกับทีมที่ผมสามารถควบคุมได้ 100% ที่ผ่านมา ผมปล่อยให้นักชกบางคนมีทีมงานของตัวเอง ซึ่งอิสระจากการฝึกของผม ” เรย์โนโซ กล่าวกับ ESPN Knockout
แนวทางใหม่นี้เกิดขึ้นหลังจาก ไฮเม่ มุนกีอา และ ฟรานซิสโก่ โรดริเกรซ ถูกตรวจพบสารต้องห้ามในช่วงเดือนพฤษภาคมและมิถุนายนตามลำดับ
มุนกีอา ถูกตรวจพบสาร เทสโทสเตอโรนจากภายนอก(exogenous testosterone) หลังชนะ บรูโน ซูราเซ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา ซึ่งเขาเพิ่งเปลี่ยนมาใช้ เรย์โนโซ เป็นโค้ชก่อนไฟต์นี้ และอาจต้องเผชิญโทษแบนหลายปี พร้อมปรับแพ้ย้อนหลัง
ในฝั่งของ โรดริเกซ แม้ไม่ได้ซ้อมกับ เรย์โนโซ โดยตรง แต่มีสัญญาสปอนเซอร์กับแบรนด์ No Boxing, No Life ของ เรย์โนโซ และโพสต์ขอบคุณเขาบนอินสตาแกรมหลังชนะ กาลาล ยาไฟ พร้อมบอกว่า “ภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของทีมคุณ”
แม้ เรย์โนโซ จะยืนยันว่าไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับสารกระตุ้น แต่ชื่อของเขาถูกโยงกับนักชกที่เคยมีประวัติเช่นกัน ได้แก่ ซาอูล อัลวาเรซ, ออสการ์ วัลเดซ, ฮูลิโอ เซซาร์ มาร์ติเนซ, และล่าสุด มุนกีอา
“วัลเดซ เป็นนักชกที่มีวินัยอย่างมาก ผมไม่เคยเห็นใครมีวินัยเท่านี้ มุนกีอา ก็เป็นคนมีวินัยสูงเช่นกัน แต่เรื่องนี้ก็เกิดขึ้นแล้ว” เรย์โนโซ กล่าว
เรย์โนโซ ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า เขาจะจัดหาทีมโภชนาการที่ใกล้ชิดกับ VADA มากขึ้น เพื่อป้องกันปัญหาในอนาคต
ปัจจุบัน เรย์โนโซ กำลังดูแลแคมป์ฝึกซ้อมของ ซาอูล อัลวาเรซ เพื่อเตรียมป้องกันแชมป์โลก 168 ปอนด์กับ เทอเรนซ์ ครอว์ฟอร์ด ในวันที่ 14 กันยายน ที่ลาสเวกัส โดยมีการตรวจสารกระตุ้นแบบสุ่มตั้งแต่ 10 พ.ค. ภายใต้ความร่วมมือกับ VADA