กาลาล ยาไฟ คิดว่าตัวเองยังไม่ใช่แชมป์โลก แม้ครองเส้นเฉพาะกาล

 

กาลาล ยาไฟ เจ้าของเหรียญทองโอลิมปิก 2020 และนักมวยรุ่นฟลายเวตวัย 32 ปี เตรียมขึ้นชกอีกครั้งในบ้านเกิดที่เบอร์มิงแฮม โดยกล่าวอย่างสบายๆ ว่า “มันก็แค่การชกอีกไฟต์นึง ผมคาดว่าจะเจอคู่ชกที่แข็งแกร่ง และแน่นอนว่าผมคาดว่าจะชนะ แต่บางครั้งคนทั่วไปก็ไม่รู้ว่าคู่ชกผมเก่งแค่ไหน”

คู่ชกของเขาคือ ฟรานซิสโก โรดริเกซ นักชกมากประสบการณ์จากเม็กซิโกที่เคยเจอกับยอดมวยอย่าง จุนโตะ นากาทานิ และ ดอนนี่ นิเอเตส มาแล้ว โดย ยาไฟ กล่าวถึงการชกนี้ว่า “บางทีคุณต่อยกับนักชกที่เก่งแต่ไม่มีชื่อเสียง แฟนๆ ไม่รู้จัก แต่จริงๆ แล้วพวกเขาอันตรายมาก และคุณก็ยังได้เงินน้อยกว่า มันไม่แฟร์เท่าไร แต่บางครั้งคุณก็เลี่ยงไม่ได้ เพราะนี่คือไฟต์ที่ถูกสั่งให้ชก”

แม้จะครองเข็มขัดแชมป์เฉพาะกาลแชมป์โลกของ WBC แต่ยาไฟยืนกรานว่า “ผมไม่ใช่แชมป์โลก” และเสริมว่า “ผมไม่เคยบอกตัวเองว่าเป็นแชมป์ เพราะยังมีคนอื่นครองแชมป์ตัวจริงอยู่ อย่าง เคนชิโระ เทราจิ ถ้าเทียบกับเหรียญทองโอลิมปิก ก็ไม่มีเหรียญโอลิมปิกรองหรืออินเตอร์ริม มันมีแค่หนึ่งเดียวเท่านั้น”

ยาไฟ เอาชนะ ซันนี่ เอ็ดเวิร์ดส์ ได้อย่างเด็ดขาดเมื่อพฤศจิกายนปีที่แล้ว แต่เขากลับรู้สึกว่าเครดิตส่วนใหญ่มักตกไปอยู่ที่การถดถอยของคู่แข่งมากกว่าฝีมือของเขาเอง “บางคนบอกว่า ซันนี่ ไม่เหมือนเดิม แต่ผมรู้ว่า ผมเหนือกว่าเขา เราเคยซ้อมกัน ผมรู้ว่าผมดีกว่า”

ก่อนเข้าสู่วงการอาชีพ ยาไฟ เคยทำงานที่โรงงาน Land Rover และผ่านการชกโอลิมปิกสองสมัยที่ริโอและโตเกียว โดยเขาเล่าว่าการเลือกอยู่กับทีมชาติอังกฤษนานถึง 4 ปีนั้นไม่ใช่แผนลึกซึ้งอะไร “ผมแค่ใช้ชีวิตไปปีต่อปี และมันก็เวิร์ก”

ปัจจุบัน ยาไฟ มีสถิติชนะ 9 ไฟต์ (ชนะน็อก 7) และแม้จะอยู่ในเส้นทางที่ก้าวเร็วด้วยวัย 32 ปี เขายังยืนยันว่าไม่ได้เลือกคู่ชกจากชื่อเสียง แต่เลือกจาก “ใครถือเข็มขัด”

เป้าหมายต่อไปของเขาคือ เคนชิโระ เทราจิ เจ้าของแชมป์โลก WBC รุ่นฟลายเวต ที่ถือเป็นยอดมวยในสายตาหลายคน โดยยาไฟทิ้งท้ายว่า “ผมอาจแพ้ได้ แต่มันก็เป็นแค่การชก ผมรู้ว่าผมดีพอที่จะชนะเขาเช่นกัน”

ทั้งนี้การชกระหว่าง กาลาล ยาไฟ กับ ฟรานซิสโก โรดริเกซ จะเกิดขึ้นเช้ามืดของวันอาทิตย์ที่จะถึงนี้